วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง (ตอน พินัยกรรมมรดก)

พินัยกรรมมรดก 

     เมื่อโตเป็นหนุ่ม ข้าพเจ้าชอบไปคุยกับหลวงพ่อแช่ม  ไปอย่างเด็กวัดทั่วไปที่สนิทสนมกับพระ  เพราะรู้สึกสนใจแบบวิธีการบำเพ็ญประโยชน์ของท่าน หลวงพ่อแช่มคุยอะไรต่ออะไรให้ฟังมาก บางทีก็พูดถึงคาถาอาคมให้ฟัง ท่านว่าคาถาทุกบทจะสำเร็จได้ด้วยธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ  ที่เป็นปัจจัยให้เกิดชีวิตและสรรพสิ่งในโลก  เมื่อว่าคาถาแล้วจึงต้องประกอบด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ, ดิน น้ำ ลม ไฟ นี้ท่านใช้คำว่าเป็นตัวคาถาแทนชื่อว่า  "นะ มะ พะ ทะ " จึงจะประสิทธิเม  
     ท่านว่าเคยมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แล้ว ๕ พระองค์  จะมาตรัสรู้ภายหน้าในอนาคตอีกแสนไกลอีกองค์หนึ่ง  คือ  พระศรีอารย์   ตัวคาถาใช้แทนพระนามพระพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์นี้ว่า "นะโมพุทธายะ"   เรียกว่า คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์  โลกนี้ไม่มีใครสูงสุดประเสริฐสุดยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว   คาถาที่ศักดิ์สิทธิ์จึงไม่พ้น  คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ คือ "นะโมพุทธายะ"  แต่ต้องมีคาถาอื่นประกอบ  
     คาถาเมตตามหานิยม ใช้คาถาว่า  "นะ ชา ลี ติ"  เป็นคาถาทางเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ 
     คาถา "มะ อะ อุ"  นี้แทนนามพระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์ 
     คาถา "พุท ธะ สัง มิ"  เป็นหัวใจพระรัตนตรัย พุทธ คือ พระพุทธเจ้า ธะ คือ พระธรรมเจ้า สัง คือ พระสังฆเจ้า  มีคือ ตัวโลก คาถานี้เป็นยอดศีล ยอดทาน  ยอดบุญกุศลทุกประการ 
      คาถา ""อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ"  เป็นคาถายอดหัวใจพระพุทธคุณ เรียกว่า"นวหรคุณ"   ใช้ภาวนาป้องกันสรรพภัยอันตรายทุกสิ่งทุกประการ 
     พระคาถาอิติปิโสถอยหลัง  " ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิ โธ พุท สัม มา สัมหัง ระ อะ ว่า คะ ภะ โน ปิ ติ อิ"   เป็นคาถาชนะหมู่มาร สรรพทุกข์สรรพโศก โรคภัยต่างๆ  

      ข้าพเจ้าถือว่า คาถาคือมรดก  วัฒนธรรมทางจิตใจของชาติไทยอย่างหนึ่ง ที่ควรรักษาไว้  เพราะเป็นของมีคุณค่า  ถ้ารู้จักนำของดีของคนโบราณมาใช้  

     หลวงพ่อแช่ม บวชมาต้ังแต่อายุ ๒๐ ปีจนอายุ ๙๘ ปีเศษ เป็นเวลานานถึง ๗๘ ปีเศษ ที่่ใช้ชีวิตอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์  นอกจากบวชตลอดชีวิตแล้ว หลวงพ่อแช่มยังได้บวชผู้อื่น อันเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาอีกด้วย 

     คราวหนึ่งท่านเดินทางไปตลาดเมืองนครปฐม ไปถูกหมากัด จนเท้าบวมเดินไม่ได้อยู่หลายวัน แต่ท่านก็ไม่ได้เป็นอะไร 
     ในที่สุดท่านล้มป่วย เป็นการป่วยคร้ังแรกและคร้ังเดียวในชีวิต  นอนป่วยอยู่หลายวัน  ในที่สุดท่านก็ถึงแก่มรณภาพ ณ กุฎิศาลาดินมุงจากของท่านน้ันเอง 

     วันถึงแก่มรณภาพ ข้าพเจ้าได้ไปที่กุฎิท่าน มีลูกศิษย์ ลูกหลานและญาติโยมไม่เกิน ๑๐ คน  
     ข้าพเจ้ายังจำภาพได้ติดตาจนถึงทุกวันนี้  เป็นเรื่องประหลาดในความรู้สึกของข้าพเจ้า  คืองัวของหลวงพ่อแช่มมีอาการหงอยเหงาเศร้าโศก เหมือนมันมีปัญญารู้ว่าหลวงพ่อแช่ม ร่มโพธิ์ร่มไทรของมันสิ้นบุญแล้ว  บางตัวมันร้องไห้มีน้ำตาไหลเป็นทาง  ทุกวันพระเวลาประมาณ ๖.๓๐ น. มันจะออกจากคอกไปเป็นฝูงเพื่อหาหญ้ากิน แต่วันนี้มันยืนนิ่ง  เงียบเหงาทุกตัวไม่เคลื่อนไหวกันเลย 
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น