ไปไหว้พระบาท
พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีเป็นอีกแห่งที่คนไทยนับถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นรอยพระบาทที่พระพุทธองค์เสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้บนไหล่เขา เพื่อเป็นเครื่องหมายนิมิตว่า พระพุทธองค์เคยเสด็จมาถึงที่น้ัน แล้วประทับรอยพระบาทไว้สำหรับสาธุชนเคารพบูชา อันรอยพระบาทน้ันท่านว่ามีรูปลักษณะอันเป็นมงคล ๑๐๘ ประการ หากใครได้เคารพบูชาจะเกิดสวัสดิมงคลแก่ชีวิต ผู้กราบไหว้จะได้เดินตามรอยพระยุคลบาทไๆปสู่สวรรค์นิพพานในภายภาคหน้า ไม่หลงทางไปสู่ประตูอบายภูมิ คือไม่ต้องเกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน ๔ ภูมินี้ อย่างต่ำจะได้เกิดเป็นมนุษย์ อย่างสูงจะได้เกิดเป็นพรหมในสวรรค์ช้้นพรหม ๑๖ ช้้น
ความนิยมเชื่อถือ ศรัทธาของศาสนิกชนว่าคนไปนมัสการพระพุทธบาทเป็นบุญกุศลนั้นสืบเนื่องมาไม่ขาด จนถึงรัชกาลที่ ๔ ก็เสด็จไปนมัสการ รัชกาลที่ ๕ ก็เสด็จไปร่ายรำ-เพลงอาวุธบนหลังช้างถวาย ตามธรรมเนียมโบราณขัติยราชประเพณี ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินใครมีกำลังไปได้ก็พยายามเดินทางไปนมัสการกัน ทั้งคฤหัสถ์ชายหญิงและพระสงฆ์องค์เจ้า
หลวงพ่อแช่มก็ได้เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาทตามประเพณี สมัยที่หลวงพ่อแช๋มไปนมัสการนั้น ตกในสมัยรัชกาลที่ ๕ สมัยน้ันรถรายังไม่มี ถนนหนทางไม่มี ต้องเดินเท้า ขี่ม้า ขี่เกวียนกันท้ังสิ้น คนต่างบ้านต่างเมืองไปกันลำบาก ต้องนอนค้างอ้างแรมกันหลายคืน กระนั้นก็อุตส่าห์บากบั่นกนัไปมากมาย ทั้งพระเณร ประสกสีกา พระก็ไปปักกลดอยู่รอบๆบริเวณเขาพระพุทธบาท กลดเกลื่อนไปดูเหมือนดอกเห็ดในฤดูฝน ระหว่างทางนั้นมีบรรดายาจกวณิพกทั้งหลาย ทั้งง่อยเปลี้ยเสียขา ตาบอด เป็นโรคเรื้อนก็มีมาก พากันมานั้่งขอทานอยู่เกลื่อนไป หลวงพ่อแช่มได้เห็นคนขอทานแล้วก็คิดถึงความหลังคร้ังที่ท่านเที่ยวขอทานอยู่ แล้วก็คิดว่าได้พ้นสภาพเช่นนั้นมาแล้ว เราจะเป็นผู้สร้างบารมีเสียเอง เราจะไม่เป็นผู้รับ ซึ่งอยู่ต่ำกว่า เราจะเป็นผู้ให้ซึ่งอยู่สูงกว่า
หลวงพ่อแช่ม กลับจากไหว้พระบาทคราวนั้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ว่า เราบวชเป็นพระนี้ ต้องภิกขาจารข้าวสุกชาวบ้านเลี้ยงชีพตามประเพณีของบุตรพระตถาคต เราจะให้อะไรแก่ชาวบ้านได้บ้าง นึกถึงพระพุทธองค์ เป็นชาติกษัตริย์ ก็สละหมดสิ้น ออกบวชภิกขาจารเพื่อโปรดสัตว์โลก ให้รู้จัการเสียสละ เพื่อสั่งสอนชาวโลกให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไม่เบียดเบียนกัน เป็นทีพึ่งแก่สัตว์โลก สัตว์โลกมิได้เป็นสุขเพราะทรัพย์ศฤงคารและอาหารเท่านั้น สัตว์โลกเป็นสุขเพราะสัตว์โลกมีจิตใจเป็นสุขด้วยสีลด้วยธรรม พระขอข้าวเขาเลี้ยงชีพมิได้มาเพื่อสะสม เลี้ยงบุตรภรรยา แต่เพื่อมีชีวิตอยู่เป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลก เพื่อดำรงศีลดำรงธรรมให้มีอยู่คู่โลกเท่านั้น
การดำรงศีลดำรงธรรม เพียงการรักษาศีล ๒๒๗ และสวดมนต์พอแล้วหรือ ? เราจะต้องดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่า มิฉนั้นเราจะเป็นหนี้ข้าวสุกชาวบ้าน ชาติหน้าเราอาจจะต้องไปเกิดเป็นควายไถนาใช้หนี้ข้าวสุกเขาก็ได้
คิดได้เช่นนี้แล้ว หลวงพ่อแช่มก็เกิดความขวนขวายที่จะดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่าแต่ก่อน นั่นคือการดำเนินตามรอยพระบาท
พระพุทธองค์ ลำดับแต่ได้ตรัสรู้ มิได้เสด็จประทับจำพรรษาอยู่ณ ทีเดียวตลอดกาล พระองค์เสด็จจารึกสัญจรไปเผยแพร่พระธรรมวินัย จนตลอดพระชนมายุ แม้วันเสด็จปรินิพพาน ก็ยังโปรดสุภัททปริพาชก ให้สำเร็จพระอรหันต์ เคยตรัสสั่งพระสาวกว่า
"ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เธอจงท่องเที่ยวไป เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนในโลกนี้ อย่าไปสองคน จงไปแต่คนเดียว จงท่องเที่ยวไปอย่างโดดเดี่ยวเหมือนนอแรด..."
การดำรงศีลดำรงธรรม เพียงการรักษาศีล ๒๒๗ และสวดมนต์พอแล้วหรือ ? เราจะต้องดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่า มิฉนั้นเราจะเป็นหนี้ข้าวสุกชาวบ้าน ชาติหน้าเราอาจจะต้องไปเกิดเป็นควายไถนาใช้หนี้ข้าวสุกเขาก็ได้
คิดได้เช่นนี้แล้ว หลวงพ่อแช่มก็เกิดความขวนขวายที่จะดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่าแต่ก่อน นั่นคือการดำเนินตามรอยพระบาท
พระพุทธองค์ ลำดับแต่ได้ตรัสรู้ มิได้เสด็จประทับจำพรรษาอยู่ณ ทีเดียวตลอดกาล พระองค์เสด็จจารึกสัญจรไปเผยแพร่พระธรรมวินัย จนตลอดพระชนมายุ แม้วันเสด็จปรินิพพาน ก็ยังโปรดสุภัททปริพาชก ให้สำเร็จพระอรหันต์ เคยตรัสสั่งพระสาวกว่า
"ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เธอจงท่องเที่ยวไป เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนในโลกนี้ อย่าไปสองคน จงไปแต่คนเดียว จงท่องเที่ยวไปอย่างโดดเดี่ยวเหมือนนอแรด..."
( โปรดติดตามตอนต่อไป)