วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง (ตอน ไปไหว้แผ่นพระบาท)

ไปไหว้พระบาท

    พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีเป็นอีกแห่งที่คนไทยนับถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นรอยพระบาทที่พระพุทธองค์เสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้บนไหล่เขา  เพื่อเป็นเครื่องหมายนิมิตว่า พระพุทธองค์เคยเสด็จมาถึงที่น้ัน  แล้วประทับรอยพระบาทไว้สำหรับสาธุชนเคารพบูชา  อันรอยพระบาทน้ันท่านว่ามีรูปลักษณะอันเป็นมงคล ๑๐๘ ประการ  หากใครได้เคารพบูชาจะเกิดสวัสดิมงคลแก่ชีวิต  ผู้กราบไหว้จะได้เดินตามรอยพระยุคลบาทไๆปสู่สวรรค์นิพพานในภายภาคหน้า   ไม่หลงทางไปสู่ประตูอบายภูมิ คือไม่ต้องเกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย  และสัตว์เดรัจฉาน ๔ ภูมินี้  อย่างต่ำจะได้เกิดเป็นมนุษย์  อย่างสูงจะได้เกิดเป็นพรหมในสวรรค์ช้้นพรหม ๑๖ ช้้น

     ความนิยมเชื่อถือ ศรัทธาของศาสนิกชนว่าคนไปนมัสการพระพุทธบาทเป็นบุญกุศลนั้นสืบเนื่องมาไม่ขาด  จนถึงรัชกาลที่ ๔ ก็เสด็จไปนมัสการ   รัชกาลที่ ๕ ก็เสด็จไปร่ายรำ-เพลงอาวุธบนหลังช้างถวาย  ตามธรรมเนียมโบราณขัติยราชประเพณี  ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินใครมีกำลังไปได้ก็พยายามเดินทางไปนมัสการกัน ทั้งคฤหัสถ์ชายหญิงและพระสงฆ์องค์เจ้า 

     หลวงพ่อแช่มก็ได้เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาทตามประเพณี สมัยที่หลวงพ่อแช๋มไปนมัสการนั้น ตกในสมัยรัชกาลที่ ๕ สมัยน้ันรถรายังไม่มี  ถนนหนทางไม่มี ต้องเดินเท้า ขี่ม้า ขี่เกวียนกันท้ังสิ้น คนต่างบ้านต่างเมืองไปกันลำบาก ต้องนอนค้างอ้างแรมกันหลายคืน  กระนั้นก็อุตส่าห์บากบั่นกนัไปมากมาย ทั้งพระเณร ประสกสีกา พระก็ไปปักกลดอยู่รอบๆบริเวณเขาพระพุทธบาท กลดเกลื่อนไปดูเหมือนดอกเห็ดในฤดูฝน  ระหว่างทางนั้นมีบรรดายาจกวณิพกทั้งหลาย ทั้งง่อยเปลี้ยเสียขา ตาบอด เป็นโรคเรื้อนก็มีมาก  พากันมานั้่งขอทานอยู่เกลื่อนไป  หลวงพ่อแช่มได้เห็นคนขอทานแล้วก็คิดถึงความหลังคร้ังที่ท่านเที่ยวขอทานอยู่  แล้วก็คิดว่าได้พ้นสภาพเช่นนั้นมาแล้ว  เราจะเป็นผู้สร้างบารมีเสียเอง เราจะไม่เป็นผู้รับ ซึ่งอยู่ต่ำกว่า เราจะเป็นผู้ให้ซึ่งอยู่สูงกว่า  
     หลวงพ่อแช่ม กลับจากไหว้พระบาทคราวนั้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ว่า เราบวชเป็นพระนี้ ต้องภิกขาจารข้าวสุกชาวบ้านเลี้ยงชีพตามประเพณีของบุตรพระตถาคต  เราจะให้อะไรแก่ชาวบ้านได้บ้าง นึกถึงพระพุทธองค์ เป็นชาติกษัตริย์ ก็สละหมดสิ้น  ออกบวชภิกขาจารเพื่อโปรดสัตว์โลก  ให้รู้จัการเสียสละ เพื่อสั่งสอนชาวโลกให้อยู่เย็นเป็นสุข  ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง  ไม่เบียดเบียนกัน เป็นทีพึ่งแก่สัตว์โลก  สัตว์โลกมิได้เป็นสุขเพราะทรัพย์ศฤงคารและอาหารเท่านั้น สัตว์โลกเป็นสุขเพราะสัตว์โลกมีจิตใจเป็นสุขด้วยสีลด้วยธรรม  พระขอข้าวเขาเลี้ยงชีพมิได้มาเพื่อสะสม เลี้ยงบุตรภรรยา  แต่เพื่อมีชีวิตอยู่เป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลก  เพื่อดำรงศีลดำรงธรรมให้มีอยู่คู่โลกเท่านั้น  

    การดำรงศีลดำรงธรรม เพียงการรักษาศีล ๒๒๗ และสวดมนต์พอแล้วหรือ ?   เราจะต้องดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่า มิฉนั้นเราจะเป็นหนี้ข้าวสุกชาวบ้าน  ชาติหน้าเราอาจจะต้องไปเกิดเป็นควายไถนาใช้หนี้ข้าวสุกเขาก็ได้  

     คิดได้เช่นนี้แล้ว  หลวงพ่อแช่มก็เกิดความขวนขวายที่จะดำรงศีลดำรงธรรมให้ยิ่งกว่าแต่ก่อน  นั่นคือการดำเนินตามรอยพระบาท 

    พระพุทธองค์ ลำดับแต่ได้ตรัสรู้  มิได้เสด็จประทับจำพรรษาอยู่ณ ทีเดียวตลอดกาล  พระองค์เสด็จจารึกสัญจรไปเผยแพร่พระธรรมวินัย  จนตลอดพระชนมายุ  แม้วันเสด็จปรินิพพาน ก็ยังโปรดสุภัททปริพาชก ให้สำเร็จพระอรหันต์ เคยตรัสสั่งพระสาวกว่า 

     "ดูก่อน  ภิกษุทั้งหลาย  เธอจงท่องเที่ยวไป  เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนในโลกนี้ อย่าไปสองคน  จงไปแต่คนเดียว  จงท่องเที่ยวไปอย่างโดดเดี่ยวเหมือนนอแรด..."
( โปรดติดตามตอนต่อไป)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น