ทางรกวกขึ้นสวรรค์
คำพังเพยโบราณกล่าวไว้ว่า
" ทางเตียนเวียนลงนรก ทางรกวกขึ้นสวรรค์"
เมื่อคิดดูให้ดีจะเห็นได้ว่า ในโลกนี้ถ้าชีวิตของใครใฝ่แต่หาความสะดวกสบาย มัวหลงเพลิดเพลินอยู่ในทางสนุกสนาน ไม่หมั่นศึกษาหาความรู้ ไม่อุตสาหะพยายามประกอบการงาน เอาแต่กิน แต่เล่น แต่สนุก คบเพื่อนชั่ว กินเหล้า เล่นการพนัน ท่านว่าผู้นั้นกำลังเดินไปสู่อบาย อบายกับสบายมันคู่กัน ทางสบายย่อมทำให้เพลิดเพลินมัวเมา ลืมตัว ลืมคุณงามความดี ในที่สุดก็จะนำพาไปสู่อบาย ไปสู่ที่ชั่วที่ต่ำ ยากจน ต่ำต้อย ไร้เกียรติยศชื่อเสียง นั้นแหละคือทางเตียนลงนรก
แต่คนที่อุสาหะพยายามหมั่นศึกษาเล่าเรียน หมั่นประกอบการอาชีพด้วยความอุตสาหะบากบั่น ฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิต ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก ไม่เอาแต่กินนอน เที่ยว ผู้นั้นย่อมพาตัวขึ้นที่สูง มีเงินทอง มีเกียรติยศชื่อเสียง เหมือนการเดินทางขึ้นภูเขาในที่สุดจะถึงยอดเขาได้ นี่คือ ทางรกวกขึ้นสวรรค์
ชีวิตหลวงพ่อแช่ม เป็นชีวิตที่เห็นได้ชัดตามคำพังเพยนี้ ท่านเกิดเป็นลูกชาวนายากจน ต้องนอนใต้ถุนเรือน หน้าคอกวัว เป็นชีวิตที่อับเฉาอาภัพ จนต้องออกท่องเที่ยวขอทานเขาเลี้ยงชีพ แต่ด้วยความอุตสาหะบากบั่น จึงได้เก็บเงินทองไว้บวชตัวเองได้ เมื่อบวชแล้วก็มีความอุตสาหะบากบั่นเล่าเรียนวิชาที่ตนสนใจ และเป็นประโยชน์แก่ตน ได้ออกธุดงค์ท่องเที่ยวไปถึงต่างถิ่นต่างแดน ยอมฝนทั่งเป็นเข็ม ออกต่อนกในป่าเพื่อแลกกับการเรียนวิชาให้จงได่ มิได้คิดย่อท้อ จนได้เรียนวิชาสมใจจึงกลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอน บำเพ็ญกรณีกิจช่วยญาติโยมตามสติปัญญาและวิชาที่เรียนมา จนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วบ้านเมือง
ถูกแล้ว วิชาไสยศาสตร์น้ัน ท่านนักปราชญ์ท่านติเตียนว่าเป็นเดรัจฉานวิชา ไม่สามารถนำทางไปสู่มรรคผลนิพพานได้ แต่วิชาไสยศาสตร์ก็ไม่ใช่วิชาต่ำชั่วเหมือนสัตว์เดรัจฉานตามที่เข้าใจกัน ในสมัยที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญมนุษย์จำเป็นต้องหาที่พึ่ง ก็ได้วิชานี้เป็นที่พึ่ง แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงเชี่ยวชาญ และทรงใช้วิชานี้ปราบพยศคนที่อวดเก่ง แตพระพุทธองค์ทรงใช้อำนาจทางจิต มิได้ใช้เครื่องรางของขลังแต่อย่างใด แต่อาจารย์ทางไสยศาสตร์อำนาจจิตไม่สูงถึงขั้นฌานสมาบัติจึงต้องใช้เครื่องราง คาถาอาคมประกอบด้วย
ไสยศาสตร์ก็คือ จิตศาสตร์อย่างหนึ่งน้ันเอง เช่นการรดน้ำมนต์ เพ่งกระแสจิต การอธิษฐานจิตด้วยอาศัยอำนาจคุณพระรัตนตรัย ตั้งจิตปรารถนาไปสู่ความสุขสวัสดิ์ ให้หายโรคหายไข้ สิ้นความเศร้าหมอง สิ้นเคราะห์สิ้นสิ้นโศก นับเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่ง
ในสมัยพระพุทธองค์ เมืองไพศาลีมีโรคระบาด ทางบ้านเมืองไม่สามารถช่วยได้ พระพุท่ธองค์ทรงโปรดให้สวดพระปริตต์ บันดาลให้ฝนตกชำระเมืองให้สะอาด ทำน้ำมนต์รักษาโรคภัยแก่ชาวเมือง โรคก็สงบราบคาบลงด้วยอำนาจพระพุทธมนต์
ประวัติชีวิตของหลวงพ่อแช่ม ที่สำคัญอีกประการคือการธุดงควัตร หลวงพ่อแช่มเป็นพระป่า การธุดงค์น้้นคือการฝึกฝนอบรมตนในทางพระพุทธศาสนา เพื่อจะประหารกิเลสตัณหา การถือธุดงค์เป็นการปฎิบัติอันสำคัญอย่างยิ่ง
การถือธุดงค์มีองค์ ๑๓ เรียกว่า "ตทังควัตร" แปลว่าการถือปฎิบัติ ๑๓ ประการคือ
๑. ถือแต่ผ้าบังสกุลเป็นวัตร ผ้าอื่นไม่ใช่นุ่งห่มอย่างหนึ่ง
๒. ถือแต่ผ้าไตรจีวรสามผืนเป็นวัตร ไม่ใช้ผ้าเกิน ๓ ผืนอย่างหนึ่ง
๓. ถือท่องเที่ยวบิณฑบาตรเป็นวัตร ไม่ขาดไม่เว้นการบิณฑบาตรอย่างหนึ่ง
๔. ถือการบิณฑบาตรบ้านเดียวแถวเดียวเป็นวัตร ไม่บิณฑบาตรบ้านอื่นแถวอื่นอย่างหนึ่ง
๕. ถือการบริโภคอาหารอาสน์เดียวเป็นวัตร เมื่อลุกจากที่นั่งแล้ว ไม่บริโภคอีกอย่างหนึ่ง
๖.ถือการบริโภคอาหารแต่ในบาตรเดียวเป็นวัตร อาหารนอกบาตรที่มีผู้ถวายภายหลังไม่บริโภคอย่างหนึ่ง
๗.ถือการบริโภคอาหารที่ได้มาจากบิณฑบาตรเป็นวัตร ไม่บริโภคอาหารที่ได้มาอย่างอื่นเป็นวัตร
๘. ถือเอาการอยู่ป่าเป็นวัตร ไม่อยู่ในวัด ในบ้าน ในเมืองอย่างหนึ่ง
๙.ถือเอาการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร ไม่เข้าอยู่ในโรงเรียน กุฎิอย่างหนึ่ง
๑๐.ถือเอาการปักกลดอยู่กลางแจ้งเป็นวัตร ไม่อยู่โคนต้นไม้ อยู่ถ้ำ อยู่โรงเรียนอย่างหนึ่ง
๑๑.ถือเอาการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร ไม่อยู่ที่อื่นอย่างหนึ่ง
๑๒. ถือเอาการอยู่ในเสนาสนะที่ท่านจัดไว้ให้อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างน้ัน ไม่ขยับขยายขวนขวายอยู่ในที่ดีกว่าอย่างหนึ่ง
๑๓. ถือเอาการนั่งเป็นวัตร ไม่นอนเลยอย่างหนึ่ง (คือจะหลับก็หลับโดยการนั่ง)
ผู้ที่ปรารถนาจะบวชเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน จึงจำเป็นต้องถือธุดงควัตรข้อใดข้อหนึ่งให้ได้เพื่อเป็นการปฎิบัติ ชำระกิเลสให้บริสุทธิ์ การถือธุดงควัตร จึงเป็นของที่ทำได้ยากมาก
บุคคลที่สามารถจะถือธุดงค์ได้ จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ๑๐ ประการ
๑. เป็นผู้มีความเชื่อมั่น
๒.เป็นผู้มีหิริ คือความละอายต่อบาป
๓. เป็นผู้มีปัญญา
๔. เป็นผู้ไม่มีจิตคดโกง
๕. เป็นผู้รู้จักคุณของธุดงค์
๖. เป็นผู้ไม่มีจิตโลเล
๗. เป็นผู้ใคร่ต่อการฝึกอบรมตน
๘. เป็นผู้ถือธุดงค์ได้มั่นคง
๙. เป็นผู้ไม่ชอบยกโทษตนเอง
๑๐. เป็นผู้มีจิตประกอบด้วยเมตตาพรหมวิหาร
ผู้ถือธุดงค์จะต้องมีคุณสมบัติ ๑๐ ประการนี้ จะขาดเสียอย่างหนึ่งอย่างใดมิได้ เมื่อถือธุดงค์แล้วจึงจะเป็นผู้กระทำให้แจ้งถึงมรรคผลนิพพานได้
แม้ผู้ถือธุดงค์แล้วยังไม่สามารถกระทำให้แจ้งถึงมรรคผลนิพพานได้ เพราะบุญบารมีได้สั่งสมมาน้อย ก็ย่อมจะทำให้ได้คุณธรรม ๑๘ ประการคือ
๑. เป็นผู้มีมารยาทบริสุทธิ์ดี
๒. เป็นผู้มีปฎิปทาอันสุจริต
๓. เป็นผู้รักษากาย วาจา ได้ดี
๔. เป็นผู้มีจิตผ่องใส
๕. เป็นผู้มีความขยัน
๖. เป็นผู้ระงับได้ซื่งความกลัว
๗. เป็นผู้สละเสียได้ ซึ่งถ้อยคำอันเป็นทิฎฐิของตน
๘. เป็นผู้ระงับเสียซึ่งความอาฆาตจองเวร
๙ เป็นผู้มีจิตประกอบด้วยเมตตา
๑๐เป็นผู้รู้จักกำหนดในการบริโภคอาหาร
๑๑ เป็นผู้มีจิตหนักในสัตว์ทั้งปวง
๑๒.เป็นผู้ประมาณการบริโภค เครื่องนุ่งห่ม
๑๓. เป็นผู้มีความเพียรพยายาม อันเป็นลักษณะของผู้ตื่นอยู่เสมอ
๑๔. เป็นผู้ไม่มีความอาลัย
๑๕.เป็นผู้อยู่ที่ไหนก็สงบที่นั่น
๑๖. เป็นผู้มีความละอายต่อบาป
๑๗.เป็นผู้ยินดีอยู่ในวิเวก
๑๘.เป็นผู้ไม่ประมาท
ผู้ที่ถือธุดงค์ท่านกล่าวว่า ย่อมเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ ๓๐ ประการคือ
๑. เป็นผู้มีจิตเมตตา
๒. เป็นผู้กำจัดกิเลสเสียได้
๓. เป็นผู้กำจัดความถือตัวได้
๔. เป็นผู้มีความเชื่อมั่นคง
๕. เป็นผู้ได้รับความสุขอย่างประณีต
๖. เป็นผู้มีกลิ่นหอมด้วยศีล
๗. เป็นผู้มีมนุษย์และเทวดารักใคร่
๘. เป็นผู้สำเร็จมรรคผลเป็นพระอริยเจ้า
๙. เป็นผู้ที่เทวดาและมนุษย์กราบไหว้บูชา
๑๐. เป็นผู้ที่หมู่บัณฑิตสรรเสริญ
๑๑. เป็นผู้ไม่ติดข้องในโลก
๑๒. เป็นผู้พิจารณาเห็นภัยในโลก
๑๓. เป็นผู้ทำประโยชน์ให้แก่มหาชน
๑๔. เป็นผู้ที่มหาชนบูชาด้วยลาภสักการะ
๑๕. เป็นผู้ไม่ติดที่
๑๖. เป็นผู้มีญาณเป็นวิหารธรรม
๑๗.เป็นผู้รื้อข่าย คือกิเลสที่ข้องอยู่
๑๘. เป็นผู้ตัดคติที่กีดกั้นได้เด็ดขาด
๑๙. เป็นผู้มีธรรมลามกไม่กำเริบ
๒๐ เป็นผู้ที่อยู่อันจัดไว้โดยเฉพาะ
๒๑. เป็นผู้บริโภคสิ่งที่หาโทษมิได้
๒๒. เป็นผู้พ้นแล้วจากคติ
๒๓. เป็นผู้ไม่มีความสงสัย
๒๔. เป็นผู้ที่มีตนถึงแล้วซึ่งวิมุติ
๒๕. เป็นผู้มีธรรมจักษุอันเห็นแล้ว
๒๖. เป็นผู้ไม่หวาดกลัวสิ่งใด
๒๗. เป็นผู้อนุสัยถอนขึ้นแล้ว
๒๙. เป็นผู้มีสมบัติคือความสุขอย่างสุขุม เป็นวิหารธรรม
๓๐. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมณคุณ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ชีวประวัติของหลวงพ่อแช่ม จะเห็นได้ว่า ท่านได้ถือธุดงค์โดยเคร่งครัด เช่นการห่มสบงจีวร ๓ ผืนเท่านั้น การไม่อาบน้ำเลย ท่านเป็นพระภิกษุที่มีคนเคารพกราบไหว้ อุดมด้วยลาภสักการะจนตลอดชีวิต จึงควรที่พุทธศาสนิกชนจะได้สนใจศึกษา ปฎิปทาของท่าน ที่ข้าพเจ้าเพียรเขียนขึ้นหวังจะเป็นเครื่องเตือนใจและเพิ่มพูนความรู้ความคิดให้กว้างขวางออกไปกว่าเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังกันมา
ในสมัยพระพุทธองค์ เมืองไพศาลีมีโรคระบาด ทางบ้านเมืองไม่สามารถช่วยได้ พระพุท่ธองค์ทรงโปรดให้สวดพระปริตต์ บันดาลให้ฝนตกชำระเมืองให้สะอาด ทำน้ำมนต์รักษาโรคภัยแก่ชาวเมือง โรคก็สงบราบคาบลงด้วยอำนาจพระพุทธมนต์
ประวัติชีวิตของหลวงพ่อแช่ม ที่สำคัญอีกประการคือการธุดงควัตร หลวงพ่อแช่มเป็นพระป่า การธุดงค์น้้นคือการฝึกฝนอบรมตนในทางพระพุทธศาสนา เพื่อจะประหารกิเลสตัณหา การถือธุดงค์เป็นการปฎิบัติอันสำคัญอย่างยิ่ง
การถือธุดงค์มีองค์ ๑๓ เรียกว่า "ตทังควัตร" แปลว่าการถือปฎิบัติ ๑๓ ประการคือ
๑. ถือแต่ผ้าบังสกุลเป็นวัตร ผ้าอื่นไม่ใช่นุ่งห่มอย่างหนึ่ง
๒. ถือแต่ผ้าไตรจีวรสามผืนเป็นวัตร ไม่ใช้ผ้าเกิน ๓ ผืนอย่างหนึ่ง
๓. ถือท่องเที่ยวบิณฑบาตรเป็นวัตร ไม่ขาดไม่เว้นการบิณฑบาตรอย่างหนึ่ง
๔. ถือการบิณฑบาตรบ้านเดียวแถวเดียวเป็นวัตร ไม่บิณฑบาตรบ้านอื่นแถวอื่นอย่างหนึ่ง
๕. ถือการบริโภคอาหารอาสน์เดียวเป็นวัตร เมื่อลุกจากที่นั่งแล้ว ไม่บริโภคอีกอย่างหนึ่ง
๖.ถือการบริโภคอาหารแต่ในบาตรเดียวเป็นวัตร อาหารนอกบาตรที่มีผู้ถวายภายหลังไม่บริโภคอย่างหนึ่ง
๗.ถือการบริโภคอาหารที่ได้มาจากบิณฑบาตรเป็นวัตร ไม่บริโภคอาหารที่ได้มาอย่างอื่นเป็นวัตร
๘. ถือเอาการอยู่ป่าเป็นวัตร ไม่อยู่ในวัด ในบ้าน ในเมืองอย่างหนึ่ง
๙.ถือเอาการอยู่โคนต้นไม้เป็นวัตร ไม่เข้าอยู่ในโรงเรียน กุฎิอย่างหนึ่ง
๑๐.ถือเอาการปักกลดอยู่กลางแจ้งเป็นวัตร ไม่อยู่โคนต้นไม้ อยู่ถ้ำ อยู่โรงเรียนอย่างหนึ่ง
๑๑.ถือเอาการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร ไม่อยู่ที่อื่นอย่างหนึ่ง
๑๒. ถือเอาการอยู่ในเสนาสนะที่ท่านจัดไว้ให้อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างน้ัน ไม่ขยับขยายขวนขวายอยู่ในที่ดีกว่าอย่างหนึ่ง
๑๓. ถือเอาการนั่งเป็นวัตร ไม่นอนเลยอย่างหนึ่ง (คือจะหลับก็หลับโดยการนั่ง)
ผู้ที่ปรารถนาจะบวชเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน จึงจำเป็นต้องถือธุดงควัตรข้อใดข้อหนึ่งให้ได้เพื่อเป็นการปฎิบัติ ชำระกิเลสให้บริสุทธิ์ การถือธุดงควัตร จึงเป็นของที่ทำได้ยากมาก
บุคคลที่สามารถจะถือธุดงค์ได้ จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ๑๐ ประการ
๑. เป็นผู้มีความเชื่อมั่น
๒.เป็นผู้มีหิริ คือความละอายต่อบาป
๓. เป็นผู้มีปัญญา
๔. เป็นผู้ไม่มีจิตคดโกง
๕. เป็นผู้รู้จักคุณของธุดงค์
๖. เป็นผู้ไม่มีจิตโลเล
๗. เป็นผู้ใคร่ต่อการฝึกอบรมตน
๘. เป็นผู้ถือธุดงค์ได้มั่นคง
๙. เป็นผู้ไม่ชอบยกโทษตนเอง
๑๐. เป็นผู้มีจิตประกอบด้วยเมตตาพรหมวิหาร
ผู้ถือธุดงค์จะต้องมีคุณสมบัติ ๑๐ ประการนี้ จะขาดเสียอย่างหนึ่งอย่างใดมิได้ เมื่อถือธุดงค์แล้วจึงจะเป็นผู้กระทำให้แจ้งถึงมรรคผลนิพพานได้
แม้ผู้ถือธุดงค์แล้วยังไม่สามารถกระทำให้แจ้งถึงมรรคผลนิพพานได้ เพราะบุญบารมีได้สั่งสมมาน้อย ก็ย่อมจะทำให้ได้คุณธรรม ๑๘ ประการคือ
๑. เป็นผู้มีมารยาทบริสุทธิ์ดี
๒. เป็นผู้มีปฎิปทาอันสุจริต
๓. เป็นผู้รักษากาย วาจา ได้ดี
๔. เป็นผู้มีจิตผ่องใส
๕. เป็นผู้มีความขยัน
๖. เป็นผู้ระงับได้ซื่งความกลัว
๗. เป็นผู้สละเสียได้ ซึ่งถ้อยคำอันเป็นทิฎฐิของตน
๘. เป็นผู้ระงับเสียซึ่งความอาฆาตจองเวร
๙ เป็นผู้มีจิตประกอบด้วยเมตตา
๑๐เป็นผู้รู้จักกำหนดในการบริโภคอาหาร
๑๑ เป็นผู้มีจิตหนักในสัตว์ทั้งปวง
๑๒.เป็นผู้ประมาณการบริโภค เครื่องนุ่งห่ม
๑๓. เป็นผู้มีความเพียรพยายาม อันเป็นลักษณะของผู้ตื่นอยู่เสมอ
๑๔. เป็นผู้ไม่มีความอาลัย
๑๕.เป็นผู้อยู่ที่ไหนก็สงบที่นั่น
๑๖. เป็นผู้มีความละอายต่อบาป
๑๗.เป็นผู้ยินดีอยู่ในวิเวก
๑๘.เป็นผู้ไม่ประมาท
ผู้ที่ถือธุดงค์ท่านกล่าวว่า ย่อมเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอันประเสริฐ ๓๐ ประการคือ
๑. เป็นผู้มีจิตเมตตา
๒. เป็นผู้กำจัดกิเลสเสียได้
๓. เป็นผู้กำจัดความถือตัวได้
๔. เป็นผู้มีความเชื่อมั่นคง
๕. เป็นผู้ได้รับความสุขอย่างประณีต
๖. เป็นผู้มีกลิ่นหอมด้วยศีล
๗. เป็นผู้มีมนุษย์และเทวดารักใคร่
๘. เป็นผู้สำเร็จมรรคผลเป็นพระอริยเจ้า
๙. เป็นผู้ที่เทวดาและมนุษย์กราบไหว้บูชา
๑๐. เป็นผู้ที่หมู่บัณฑิตสรรเสริญ
๑๑. เป็นผู้ไม่ติดข้องในโลก
๑๒. เป็นผู้พิจารณาเห็นภัยในโลก
๑๓. เป็นผู้ทำประโยชน์ให้แก่มหาชน
๑๔. เป็นผู้ที่มหาชนบูชาด้วยลาภสักการะ
๑๕. เป็นผู้ไม่ติดที่
๑๖. เป็นผู้มีญาณเป็นวิหารธรรม
๑๗.เป็นผู้รื้อข่าย คือกิเลสที่ข้องอยู่
๑๘. เป็นผู้ตัดคติที่กีดกั้นได้เด็ดขาด
๑๙. เป็นผู้มีธรรมลามกไม่กำเริบ
๒๐ เป็นผู้ที่อยู่อันจัดไว้โดยเฉพาะ
๒๑. เป็นผู้บริโภคสิ่งที่หาโทษมิได้
๒๒. เป็นผู้พ้นแล้วจากคติ
๒๓. เป็นผู้ไม่มีความสงสัย
๒๔. เป็นผู้ที่มีตนถึงแล้วซึ่งวิมุติ
๒๕. เป็นผู้มีธรรมจักษุอันเห็นแล้ว
๒๖. เป็นผู้ไม่หวาดกลัวสิ่งใด
๒๗. เป็นผู้อนุสัยถอนขึ้นแล้ว
๒๙. เป็นผู้มีสมบัติคือความสุขอย่างสุขุม เป็นวิหารธรรม
๓๐. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมณคุณ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ชีวประวัติของหลวงพ่อแช่ม จะเห็นได้ว่า ท่านได้ถือธุดงค์โดยเคร่งครัด เช่นการห่มสบงจีวร ๓ ผืนเท่านั้น การไม่อาบน้ำเลย ท่านเป็นพระภิกษุที่มีคนเคารพกราบไหว้ อุดมด้วยลาภสักการะจนตลอดชีวิต จึงควรที่พุทธศาสนิกชนจะได้สนใจศึกษา ปฎิปทาของท่าน ที่ข้าพเจ้าเพียรเขียนขึ้นหวังจะเป็นเครื่องเตือนใจและเพิ่มพูนความรู้ความคิดให้กว้างขวางออกไปกว่าเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังกันมา